คำพยานจาก โทนี่ อาลาโม กระดูกแห้ง

โดย โทนี่ อาลาโม

เอเสเคียลผู้เผยพระวจนะในสมัยพันธสัญญาเดิมได้รับนิมิตจากพระเจ้า โดยเขามองเห็น
หุบเขาแห่งกระดูกแห้งซึ่งสะท้อนถึงความตายฝ่ายจิตวิญญาณของอิสราเอลและโลกใบนี้ นิมิตนี้เป็นการพยากรณ์ล่วงหน้าถึงการเสด็จมาครั้งแรกของพระคริสต์ การประกาศข่าวประเสริฐของพระองค์ และผลที่จะเกิดขึ้น การกลับมีชีวิตขึ้นใหม่ครั้งแรกจากความตายสู่ชีวิตนิรันดร์สำหรับทุกคนที่เชื่อใน "พระดำรัสของพระองค์"1
พระเจ้าตรัสแก่เอเสเคียลว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย กระดูกเหล่านี้จะมีชีวิตได้ไหม” (ผู้ตายฝ่าย จิตวิญญาณเหล่านี้จะมีชีวิตได้หรือไม่) เอเสเคียลทูลตอบไปว่า "โอ องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าเจ้าข้า พระองค์ผู้ทรงเป็นผู้สร้างกระดูกเหล่านี้ พระองค์ก็ทรงทราบอยู่แล้ว”2 พระเจ้าตรัสกับเขาอีกครั้งว่า "จงพยากรณ์ต่อกระดูกเหล่านี้ และกล่าวแก่มันว่า โอ กระดูกแห้งเอ๋ย จงฟังพระวจนะของพระเยโฮวาห์ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าตรัสดังนี้แก่กระดูกเหล่านี้ว่า ดูเถิด เราจะกระทำให้ลมหายใจเข้าไปในเจ้า และเจ้าจะมีชีวิต”3
อิสราเอลต่างทราบดีว่าพวกเขานั้นสิ้นชาติแล้ว4 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีความแตกแยกเกิดขึ้นและยากที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก แต่พระเจ้าตรัสแก่เอเสเคียลว่าพระองค์จะทรงยกชนชาติหนึ่งขึ้นมาให้ยิ่งใหญ่กว่าอิสราเอลเดิม ผู้ซึ่งไม่ยอมหยุดกระทำบาป ชนชาติอิสราเอลในครั้งที่สองนี้คือประชากรจากทุกชนชาติในโลก5 เป็นชาวยิวที่เหลืออยู่ซึ่งถูกเลือก และชนชาติอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดจะถูกตัดต่อกิ่งเข้ากับเถาองุ่นแท้ (พระคริสต์)6 จะกลายเป็นชนชาติศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งฟื้นจากความตายเนื่องจากความบาปเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์7 พวกเขาจะไม่ถูกแยกออกจากพระเจ้าอีกต่อไป นั่นคือการกลับเป็นขึ้นมาใหม่ครั้งแรกผ่านทางฤทธิ์อำนาจแห่งการกลับเป็นขึ้นมาใหม่ของพระคริสต์8
เมื่อปี 1964 ก่อนการกลับมามีชีวิตใหม่ครั้งแรกของผมผ่านทางพระคริสต์ ผม เบอร์นี่ ฮอฟแมน หรือที่คนรู้จักกันในชื่อ โทนี่ อาลาโม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปว่าเป็นผู้ไม่มีความเชื่อและชอบทำบาป อีกทั้งยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องของพระเจ้าเลย ผมไม่เคยรู้เลยว่าพระเจ้านั้นมีอยู่จริง พระคำของพระเจ้าสำหรับผมแล้วเปรียบเสมือนนิทานและตำนานปรัมปรา ผมไม่เข้าใจเลยว่าคนทั่วไปเชื่อในพระเจ้าและพระบุตรของพระองค์ได้อย่างไร ผมไม่เคยเชื่อคำพูดของคนที่บอกว่าพวกเขาเชื่อในพระเจ้า เพราะพวกเขาก็เหมือนคนหน้าไว้หลังหลอกทั่วไป พวกเขาก็ทำบาปเท่าๆ กับผมหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ที่ผมรู้เพราะผมเคยใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้มาก่อน พวกเราทุกคนก็เหมือนกองกระดูกแห้งเหล่านี้ ผมจะรู้สึกโกรธทุกครั้งเวลาที่มีคนพยายามเปลี่ยนผมให้เป็นคริสเตียน เนื่องจากสำหรับผมแล้วพระคัมภีร์คือเรื่องเสียเวลาเปล่า ชีวิตของผมเวลาเป็นเรื่องสำคัญเกินกว่าจะมาเสียไปกับเกมหรือเรื่องเล่าไร้สาระเหล่านี้
ในธุรกิจด้านการตลาดผมได้รับการยอมรับว่าเป็นมือวางอันดับหนึ่ง ผมรับผิดชอบดูแลความสำเร็จให้กับนักร้องและนักแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย อีกทั้งยังประสบความสำเร็จจากการจัดทำโปรโมชั่นสินค้าในครัวเรือนซึ่งเป็นที่รู้จักมากมายอีกหลายชิ้น ฝันร้ายที่สุดของผมคือการที่ใครสักคนมาเปลี่ยนผมให้กลับใจ และออกไปแจกใบปลิวเพื่อแบ่งปันเรื่องราวของพระเยซูตามหัวมุมถนน ไปทำพันธกิจตามแหล่งชุมชนของผู้ไร้ที่อยู่อาศัย เพื่อประกาศข่าวประเสริฐและแจกอาหารแก่ผู้ที่หิวโหย
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 60 โลกไม่ได้สวยงามสำหรับผมเท่าไรนัก ผมเกลียดยาเสพย์ติดและ
พวกคนชั่วช้าสกปรก ผมไม่ชอบพวกฮิปปี้และอิทธิพลของคนเหล่านี้ต่อวงการฮอลลีวู้ด Sunset Strip และกระแสที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่วนตัวผม ผมรู้ดีว่าผมเองก็ไม่ใช่นักบุญ ผมไม่เคยสนใจว่าใครทำบาปอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าครอบครัวที่มีเด็ก ๆ สำหรับผมนั้นโลกนี้ได้จบสิ้นลงแล้ว มีแต่ความตาย ความแห้งแล้ง สิ่งน่ารังเกียจและความสิ้นหวัง9 ไม่มีอะไรเลยที่มีคุณค่าพอ ผมเชื่อว่าคนอื่น ๆ บนโลกนี้ต่างก็คิดเหมือนกันกับผม เป็นเหตุให้หลายคนได้เลือกใช้ยาเสพย์ติดเพื่อหนีไปจากโลกแห่งความเป็นจริง คริสตจักรทั้งหลายเองก็หน้าไหว้หลังหลอก ทุกคนก็ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน  โลกทั้งโลกนี้ได้ตายไปในความบาปและการล่วงละเมิดแล้ว10 โลกนี้เป็นเหมือนกับหุบเขาแห่งกระดูกแห้งขนาดใหญ่ ดังเช่นที่เอเสเคียลพบนั่นเอง11
ผมได้รู้จักกับพระเยซูที่สำนักงานเบเวอรี่ฮิวส์ ในรูปแบบที่เหนือธรรมชาติมาก คงจะไม่มีใครสามารถนึกภาพได้ว่าผมรู้สึกทั้งกลัวและปลื้มปิติมากแค่ไหน เมื่อพระเจ้าทรงพิสูจน์กับผมว่าพระองค์และพระบุตรของพระองค์นั้นมีอยู่จริง ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้สัมผัสกับพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์และได้รับฟังพระสุรเสียงที่เปี่ยมไปด้วยฤทธานุภาพประหนึ่งซึมซาบไปทุกส่วนของร่างกายผมกลับไปกลับมาคล้ายดั่งว่าผมเป็นที่กรอง การดำรงอยู่ของพระองค์ช่างยิ่งใหญ่และอบอุ่นมาก พระวิญญาณของพระองค์กดลงบนตัวผมอย่างหนักหน่วง เหมือนกับว่าพระหัตถ์ของพระเจ้ากำลังบีบตัวของผมเลยทีเดียว พระวาจาของพระองค์ตรัสสั่งให้ผม "ยืนขึ้น และบอกกับทุกคนในห้องเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า และบอกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาที่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องตาย" ในขณะที่พระวิญญาณของพระองค์ได้มาที่สำนักงาน และกดทับลงมาบนตัวผมนั้น ผมสามารถรับรู้ความรู้สึกได้ถึงพระสติปัญญาอันยิ่งใหญ่ ยากจะกล่าวออกมาเป็นคำพูดได้ของพระองค์12 พระองค์ทรงอยู่ในทุกอะตอมและโมเลกุล พระองค์คืออากาศ พระองค์ทรงทราบทุกสิ่งในอดีต และทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต13 ผมรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก เมื่อได้รู้ว่าพระองค์ทรงทราบทุกสิ่งที่ผมเคยกระทำ จากนั้นพระองค์ก็ทรงสำแดงให้ผมเห็นอย่างชัดเจนว่าสวรรค์และนรกนั้นมีอยู่จริง ผมรู้ว่าผมจะต้องไปที่ไหน หากไม่ทำตามที่พระองค์ตรัส...ไม่ใช่สวรรค์อย่างแน่นอน
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผมรู้สึกกลัว14 แต่มันก็ยอดเยี่ยมมากในเวลาเดียวกันที่ได้รู้ว่าพระเจ้านั้นมีอยู่จริงและยังทรงดำรงอยู่ และทุกสิ่งที่ผู้เผยพระวจนะและอัครทูตกล่าวเกี่ยวพระองค์นั้นเป็นความจริง พระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนับตั้งแต่ที่ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลกและสิ่งต่าง ๆ 15 ผมรู้ในทันทีว่าผมจะยำเกรง, ชื่นชม, เคารพ, รัก, และจะรับใช้พระองค์ตลอดไป ผมรู้ดีว่าผมยินดีที่จะใช้ชีวิต ถูกข่มเหงและถูกทรมานอันเนื่องมาจากความเชื่อของผม และตายเพื่อพระองค์ และจะทำด้วยความชื่นชมยินดีอย่างเต็มเปี่ยม16
หลังจากพระเจ้าปลดปล่อยผมในวันนั้น ผมก็เริ่มถามพระองค์ว่า "พระองค์ทรงต้องการให้ข้าพระองค์ทำอะไร ข้าพระองค์จะทำทุกอย่างที่พระองค์ทรงบอกให้ข้าพระองค์ทำ” ผมไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จึงคิดว่าพระองค์อาจทรงต้องการให้ผมไปโบสถ์ ผมคิดว่าไปโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดน่าจะดีที่สุด ผมจึงไปที่นั่น แต่ผมกลับไม่ได้พบกับพระองค์ จากนั้นผมจึงลองไปโบสถ์อื่น ๆ แต่ก็ไม่พบพระองค์เช่นเดียวกัน จากนั้นผมจึงได้อ่านหนังสือภาพซึ่งหน้าปกมีรูปคนที่ดูเป็นคนดีและมีสติปัญญา หนวดเครายาวและสวมเสื้อคลุมทางศาสนา แต่ผมก็ได้รู้ว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ถูกต้องเนื่องจาก หนังสือเล่มนี้บอกว่าเราไม่จำเป็นต้องยำเกรงพระเจ้า17 พระเจ้าไม่ได้ขู่เข็ญผู้คน และคุณสามารถทำบาปได้โดยไม่ต้องตกนรก18 ผมไม่ได้คำนึงถึงพระเจ้าในรูปแบบนี้ ผมต้องการมองหาพระเจ้าที่จะทรงขู่คาดโทษผม19 พระเจ้าที่ได้ทรงสำแดงสวรรค์และนรกให้ผมเห็น บังคับให้ผมทำในสิ่งที่คนอื่น ๆ ไม่สามารถบังคับผมให้ทำในสิ่งที่ผมไม่อยากจะทำได้
ผมไม่เคยคิดเลยว่าความจริงจะอยู่ในพระคัมภีร์ เพราะเราสามารถพบเจอพระคัมภีร์ได้ทั่วไปรอบตัวเรา ผมคิดว่าสิ่งที่เป็นกระแสหรือเป็นที่แพร่หลายไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด เพราะผมเชื่อว่าคนโดยทั่วไปนั้นไม่น่าจะฉลาดนัก แต่สุดท้ายผมก็เริ่มอ่านพระคัมภีร์ และได้ค้นพบแผนการช่วยให้รอดของพระเจ้า อีกทั้งคำสั่งสอนสู่ชีวิตนิรันดร์ เป็นแนวทางให้ผมเติบโตขึ้นในพระคริสต์ และสามารถนำวิญญาณมากมายมาหาพระองค์20
เมื่อตอนที่ผมเริ่มอ่านพระคัมภีร์ผมสัมผัสได้ถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่กดทับลงมาบนตัวผม เหมือนที่ผมเคยสัมผัสที่สำนักงานเบเวอรี่ฮิวส์ หลังจากนั้นพระเจ้าทรงสำแดงให้ผมเห็นสวรรค์และนรกในอีกรูปแบบหนึ่ง21 ผมร้องบอกกับพระเจ้าว่า "ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าทรงส่งข้าพระองค์ไปนรกเลย!" จากนั้นผมก็มองเห็นแผ่นดินสวรรค์และสัมผัสได้ถึงสันติสุขของสวรรค์22 ในฝ่ายวิญญาณนั้นแม้ผมจะตาบอด เปลือยกายและตัวเล็กนิดเดียว แต่ผมกลับทูลบอกกับพระเจ้าว่าผมพร้อมที่จะตาบอด เปลือยกายและกลายเป็นคนไม่สำคัญอยู่อย่างนี้หากมันจะทำให้ผมได้สัมผัสกับสันติสุขจากสวรรค์เฉกเช่นนี้ตลอดไป ผมได้เห็นนรกอีกครั้งและร้องขอการให้อภัยและพระเมตตาจากพระเจ้า ทันใดนั้นฤทธิ์เดชของพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้หลั่งไหลเข้าไปในร่างกายของผม23 โดยความเชื่อในพระเยซูและพระโลหิตที่หลั่งออกมาเพื่อผม และโดยความเชื่อในพระคำของพระองค์ที่ผมได้ยินและปฏิบัติตาม24 ผมจึงสัมผัสได้ว่าความบาปทั้งหมดที่ผมเคยกระทำนั้นได้ถูกยกออกไปจากวิญญาณของผม25 ผมรู้สึกสะอาดและบริสุทธิ์26 ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วเพื่อผมโดยพระเยซูคริสต์ "องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล"27 ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้รอดพ้นจากความบาปและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจใหม่ซึ่งจะช่วยป้องกันผมจากการทำบาปจนผมอยากบอกให้ทุกคนในโลกได้รู้จักกับพระองค์ด้วยตนเองและมีชีวิตนิรันดร์แบบเดียวกับผม
แม้ว่าจะทำงานด้านพันธกิจเผยแพร่ศาสนาเพื่อพระคริสต์มาตั้งแต่ปี 1964 แต่ผมยังสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเทจากสวรรค์ลงมาในกระดูกซึ่งเคยแห้งเหี่ยวนี้ทุกครั้งที่ผมอ่านพระคำของพระองค์ พระคำของพระเจ้าได้ทำให้เกิดเส้นเอ็นกล้ามเนื้อฝ่ายวิญญาณสำหรับกระดูกแห้งเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ และปิดคลุมกระดูกเหล่านี้ไว้ด้วยเนื้อหนังประหนึ่งดังเสื้อเกราะฝ่ายจิตวิญญาณ พระคำของพระเจ้าทุกคำทำให้พระคริสต์ทรงต่อขยายกิ่งเข้ามาในจิตใจของผมมากยิ่งขึ้น ผมยังสัมผัสได้ถึงพระคำของพระองค์ที่หลั่งไหลเข้ามาใจจิตวิญญาณของผมผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทำให้ผมมีกำลังที่จะยืนหยัดและทำลายศรเพลิงที่ซาตานยิงใส่ผมตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้มากขึ้นทุก ๆ วันว่า "เราเป็นยิ่งกว่าผู้มีชัย" ในพระเยซูคริสต์28 และเรา "สมบูรณ์ในพระองค์"29 ผมยังได้ทราบอีกว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากแค่ไหนที่จะปฏิบัติตามพระดำรัสของพระเยซูทุกคำ ดังที่ทรงได้บอกไว้ในขณะที่พระองค์กำลังเสด็จลอยขึ้นผ่านกลุ่มเมฆสู่สวรรค์ว่า "จงไปทั่วแผ่นดินโลกและประกาศข่าวประเสริฐแก่ทุกคน"30(ประกาศข่าวประเสริฐแก่กองกระดูกแห้ง คนที่ตายฝ่ายวิญญาณเพื่อที่พวกเขาจะ "ได้ยินพระดำรัสของพระเจ้า"31) “ผู้ที่เชื่อและรับบัพติศมาก็จะรอด [ถูกช่วยรักษาไว้ให้รอด] แต่ผู้ที่ไม่เชื่อจะต้องถูกลงพระอาชญา”32
หากคุณเป็นเหมือนกันกับผมและไม่อยากถูกลงโทษ แต่ได้รับความรอด ขอให้อธิษฐานทูลบอกกับพระเจ้าว่าดังน
ี้:

องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงเมตตาวิญญาณข้าพระองค์ที่เป็นคนบาป1 ข้าพระองค์เชื่อว่า
พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงดำรงอยู่2 ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและหลั่งพระโลหิตอันประเสริฐเพื่ออภัยความบาปทั้งสิ้นที่ผ่านมาของข้าพระองค์3ข้าพระองค์เชื่อว่าพระเจ้าทรงยกพระเยซูขึ้นจากความตายโดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์4 และพระองค์ทรงนั่งอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า เพื่อรับฟังคำสารภาพบาปและคำอธิษฐานของข้าพระองค์นี้5ข้าพระองค์ขอเปิดใจเชิญพระองค์เสด็จเข้ามา6 ขอทรงชำระความบาปอันโสโครกของข้าพระองค์ด้วยพระโลหิตอันประเสริฐที่ทรงหลั่งออกเพื่อข้าพระองค์ที่ไม้กางเขน7 พระองค์จะทรงไม่ผลักไสข้าพระองค์ออกไป พระเยซูจะทรงอภัยความบาปและช่วยกอบกู้จิตวิญญาณของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทราบเช่นนี้เพราะพระคำของพระองค์กล่าวไว้เช่นนั้น8 พระคำของพระองค์กล่าวว่า พระองค์จะไม่ผลักไสผู้ใดออกไป ซึ่งนั่นหมายถึงข้าพระองค์ด้วย9 ข้าพระองค์จึงมั่นใจว่าพระองค์ทรงฟังเสียงของข้าพระองค์และจะทรงตอบคำอธิษฐานของข้าพระองค์ และข้าพระองค์มั่นใจว่าข้าพระองค์จะได้รับความรอด10 ขอขอบพระคุณพระองค์พระเยซูเจ้าที่ทรงกอบกู้จิตวิญญาณของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะแสดงความขอบคุณด้วยการปฏิบัติตามคำที่พระองค์ทรงสั่ง และจะไม่ทำบาปอีกต่อไป11

เมื่อได้รับความรอดแล้วพระเยซูทรงตรัสให้เรารับบัพติศมาโดยการจุ่มตัวมิดลงในน้ำในพระนามของพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์12 ขอให้เราหมั่นศึกษาพระคัมภีร์ฉบับ KJV และปฏิบัติตามอย่างจริงจัง13

พระเยซูทรงต้องการให้คุณบอกเล่าเรื่องราวแห่งความรอดนี้แก่ผู้คน คุณสามารถเป็นหนึ่งในผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐจาก สาธุคุณโทนี่ อาลาโม เราจะส่งเอกสารเหล่านี้ให้แก่คุณโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ติดต่อหรือส่งอีเมลถึงเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แบ่งปันข้อความนี้ให้กับคนอื่นๆ
หากต้องการให้โลกนี้ได้รับความรอด พระเยซูตรัสไว้ว่าอย่าปล้นสิบลดและเครื่องถวายของ
พระเจ้า พระองค์ตรัสว่า "คนจะปล้นพระเจ้าหรือ" แต่เจ้าทั้งหลายได้ปล้นเรา  แต่เจ้ากล่าวว่า ‘เราทั้งหลายปล้นพระเจ้าอย่างไร’ ก็ปล้นในเรื่องสิบชักหนึ่งและเครื่องบูชานั่นซี เจ้าทั้งหลายต้อง
ถูกสาปแช่งด้วยคำสาปแช่ง เพราะเจ้าทั้งหลายทั้งชาติ (และโลกใบนี้) ปล้นเรา จงนำสิบชัก (สิบลดคือ 10% ของรายได้เบื้องต้นของคุณ) หนึ่งเต็มขนาดมาไว้ในคลัง เพื่อว่าจะมีอาหาร (อาหารฝ่ายวิญญาณ) ในนิเวศของเรา (ความรอดสำหรับผู้คน) และจงลองดูเราในเรื่องนี้ว่า เราจะเปิดบรรดาช่องฟ้าสวรรค์ให้เจ้า และเทพรอย่างล้นไหล[จนห้องคลังไม่สามารถจะเก็บกักไว้ได้] มาให้เจ้าหรือไม่ เราจะขนาบตัวที่ทำลายให้แก่เจ้า เพื่อว่ามันจะไม่ทำลายผลแห่งพื้นดินของเจ้า และผลองุ่นในไร่นาของเจ้าจะไม่ร่วง พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสดังนี้แหละ พระเยโฮวาห์จอมโยธาตรัสว่า แล้วประชาชาติทั้งสิ้นจะเรียกเจ้าว่า ผู้ที่ได้รับพระพร ด้วยว่าเจ้าจะเป็นแผ่นดินที่น่าพึงใจ" (มาลาคี 3:8-12)


Thai Alamo Literature

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอเอกสารในหัวข้อต่าง ๆ ที่สนใจได้โดยติดต่อเรามาที่

Tony Alamo, World Pastor
Tony Alamo Christian Ministries Worldwide
P. O. Box 2948
Hollywood, CA 90078

สายด่วนให้บริการคำอธิษฐานและข้อมูลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงของเรา: (661) 252-5686
FAX (661) 252-4362

โทนี่ อาลาโม Christian Ministries Worldwide มีที่อยู่อาศัย
และสิ่งของจำเป็นเพื่อการดำรงชีวิตพร้อมสำหรับ ผู้ที่ต้องการรับใช้พระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ
สุดวิญญาณ สุดความคิดและสุดกำลังความสามารถ ณ สถานที่ของเราในสหรัฐอเมริกา

พันธกิจของเราจัดขึ้นที่นครนิวยอร์กทุกวันอังคารเวลา 20:00 น. และในอีกหลายพื้นที่ทุกคืน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข  +1 (908) 937-5723 มีอาหารบริการหลังงานเลิกทุกครั้ง

แจ้งขอหนังสือ The Messiah จากศิษยาภิบาล อาลาโม ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์
จากพระคัมภีร์เดิมซึ่งมีกล่าวถึงผ่านคำพยากรณ์กว่า 333 คำพยากรณ์

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคณะทำงานเก็บเกี่ยวผลทางจิตวิญญาณ โดยการเป็นผู้เผยแพร่ผลงานของศิษยาภิบาล อาลาโม

ผลงานเขียนและข้อมูลเสียงทั้งหมดมีแจกให้ฟรีโดยคิดค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง หากมีคนคิดค่าใช้จ่าย กรุณาโทรแจ้งที่ +1 (661) 252-5686 ซึ่งเป็นเบอร์เรียกเก็บเงินปลายทาง

เอกสารชุดนี้ประกอบด้วยแผนการที่แท้จริงเพื่อนำไปสู่ความรอด (กิจการ 4:12) อย่าทิ้ง แต่ให้ส่งต่อให้ผู้อื่น

สำหรับผู้ที่อาศัยในประเทศอื่น เราอยากสนับสนุนให้แปลเอกสารเหล่านี้ เป็นภาษาท้องถิ่น หากมีการพิมพ์ซ้ำ ขอให้รวมข้อมูลลิขสิทธิ์และข้อมูลทะเบียนเอกสารต่อไปนี้ด้วย:

© ลิขสิทธิ์ พฤศจิกายน 1995 มีนาคม 2012   สงวนลิขสิทธิ์ World Pastor โทนี่ อาลาโม ® จดทะเบียน พฤศจิกายน 1995 มีนาคม 2012


footnotes:

1. อสค. 36:1, 4 return

2. อสค. 37:3 ต้นฉบับ ฮบ. return

3. อสค. 37:4-5 ต้นฉบับ อราเมค return

4. อสค. 37:11 return

5. ปฐก. 17:4-16, 22:18, 26:4, 46:3, 48:19, 49:10, อพย. 19:6, 32:10, สดด. 22:27, อสย. 2:2, ยน. 11:51-52, กจ. 10:34-35, อฟ. 1:10, ฮบ. 8:8-12, 1 ปต. 2:9-10, วว. 5:9, 14:6, และอีกหลายตอน return

6. ยน. 15:1, รม. 11:17, 19, 23, 24, วว. 7:4 return

7. 1 ปต. 2:9 return

8. รม. 15:12, 1 คร. 15:15, 16, คล. 2:12, 3:1, 1 ธส. 4:16, วว. 20:5-6 return

9. มธ. 13:39, บทที่ 24, 1 คร. 15:24 ,ฮบ. 9:26, 1 ปต. 4:7 return

10. อฟ. 2:1, 5 ,คล. 2:13 return

11. อสค. 37:1 return

12. กดว. 24:16, 1 ซมอ. 2:3, โยบ 21:22, สดด. 32:8, สภษ. 2:6, 3:20, 9:10, ลก. 1:77, รม. 11:33, 1 คร. 1:25, 2:16, 3:19, 2 คร. 4:6 return

13. สดด. 44:21, 94:11, อสย. 46:9-10, 1 คร. 3:20, 1 ยน. 3:20, วว. 21:6, 22:13 return

14. ปฐก. 35:5, ลวน. 26:16, โยบ 31:23, ยรม. 32:21, อสค. 32:32, 2 คร. 5:11 return

15. ปฐก. 1:1, มลค. 3:6, กจ. 4:24, 2 คร. 5:11, ฮบ. 13:8 return

16. สดด. 5:11, 35:19, อสย. 51:11, 61:10, ยน. 16:33, กจ. 2:28, 20:24, รม. 12:8, 15:13, 2 คร. 8:12 return

17. ปฐก. 22:12, สดด. 112:1, สภษ. 13:13, 14:16, 28:14, 31:30, ปญจ. 7:18 return

18. สภษ. 8:36, อสค. 18:2, 4, วว. 19:20, 20:10, 14, 15, 21:8 return

19. ปฐก. 2:17, 6:7, 9, 13, อพย. 20:5, 32:33, 34:7, อสค. 3:18, 18:20, มธ. 8:12, 22:13, มก. 16:16, วว. 2:5, 16, 22-23, 3:3, 20:15 return

20. ยน. 4:35-36, 15:5, 8, 15-16, วว. 14:18 return

21. อสย. 5:14, 14:9, ลก. 16:22-31, กจ. 7:55-56, วว. 4:1-11, 14:10-11, 15:1-4, 20:10, 21:2-5, 10-27, 22:1-5 return

22. รม. 5:1, อฟ. 2:14, ฟป. 4:7, คล. 3:15, 1 ธส. 5:23, 2 ธส. 3:16 return

23. ลวน. 26:11-12, ยน. 14:16, 2 คร. 6:16, 1 ปต. 2:5, 1 ยน. 3:24 return

24. ฮบก. 2:4, มธ. 17:20, ลก. 7:50, กจ. 20:21, 26:18, รม. 1:17, 3:28, 5:2, 10:17, 11:20, กล. 2:16, 3:11, อฟ. 2:8, 3:17, ฮบ. 10:38 return

25. มก. 14:24, ยน. 6:53, กจ. 20:28, รม. 3:25, 5:9, อฟ. 1:7, 2:13, คร. 1:14, 20, ฮบ. 9:12, 14, 22, 1 ปต. 1:18-19, วว. 1:5, 5:9 return

26. ฮบ. 10:19-22, 1 ยน. 1:7, วว. 1:5, 7:14 return

27. 27 สดด. 89:18, กจ. 3:13-14 return

28. รม. 8:37, 1 ยน. 4:3-4 return

29. คล. 2:10 return

30. มก. 16:15, ลก. 14:23 return

31. 2 พกษ. 20:16, อสย. 1:10, ยรม. 2:4, อสค. 37:4 return

32. มก. 16:16, 2 ธส. 2:12 return


Prayer footnotes:

1. สดด. 51:5, รม. 3:10-12, 23 return

2. มธ. 26:63-64, 27:54, ลก. 1:30-33, ยน. 9:35-37, รม. 1:3-4 return

3. กจ. 4:12, 20:28, รม. 3:25, 1 ยน. 1:7, วว. 5:9 return

4. สดด. 16:9-10, มธ. 28:5-7, มก. 16:9, 12, 14, ยน. 2:19, 21, 10:17-18, 11:25, กจ. 2:24, 3:15, รม. 8:11, 1 คร. 15:3-7 return

5. ลก. 22:69, กจ. 2:25-36, ฮบ. 10:12-13 return

6. คร. 3:16, วว. 3:20 return

7. อฟ. 2:13-22, ฮบ. 9:22, 13:12, 20-21, 1 ยน. 1:7, วว. 1:5, 7:14 return

8. มธ. 26:28, กจ. 2:21, 4:12, อฟ. 1:7, คล. 1:14 return

9. มธ. 21:22, ยน. 6:35, 37-40, รม. 10:13 return

10. ฮบ. 11:6 return

11. ยน. 5:14, 8:11, รม. 6:4, 1 คร. 15:10, วว. 7:14, 22:14 return

12. มธ. 28:18-20, ยน. 3:5, กจ. 2:38, 19:3-5 return

13. ฉลย. 4:29, 13:4, 26:16, ยชว. 1:8, 22:5, 2 ทธ. 2:15, 3:14-17, ยก. 1:22-25, วว. 3:18 return